ซึ่งใครๆ ก็รู้จักกันดีว่า เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ก็คือตระกูลศรีวัฒนประภา สำหรับคนที่อยู่ในวงการฟุตบอล ก็จะทราบกันดีว่าทีมนี้ เป็นแค่ทีมฟุตบอลที่ธรรมดาๆ เท่านั้นไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็ยังคงเป็นทีมที่วนเวียนอยู่ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ หรือบางฤดูกาลที่อยากจะเข้าไปอยู่ ในพรีเมียร์ลีกก็จะเป็นทีมท้ายๆ ของตารางที่สร้าง ตํานานลิเวอร์พูลกองกลาง มักจะคอยหนีการตกชั้นอยู่เป็นประจำ
ในที่สุดก็มาถึงวันที่ทางกลุ่มทุนของคิงพาวเวอร์ เข้ามาเทคโอเวอร์ตอนปี 2010 ที่อยู่ภายใต้การนำโดยคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา และลูกชายอย่างคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ท่านทั้งสองนี้ ได้ช่วยกันและลงมือทำ ให้มีการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะ ผู้ช่วยและ ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ที่สำคัญไปตลอดกาล
เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ใหม่ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี
ใช่แล้วค่ะเมื่อเจ้าสัววิชัยแห่งคิงพาวเวอร์ ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ได้จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม ตอนที่เขาได้ศึกษาอยู่ที่ วูดลอว์น ในสหรัฐอเมริกา แต่มาจบทางด้านศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบ้านเราคือรามคำแห่ง และยังจบคณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยนอร์ททอร์ป ในอเมริกา
ซึ่งต่อมาท่านเจ้าสัววิชัย ก็ได้ก่อตั้งบริษัท คิง พาวเวอร์อินเตอร์เนชั่นแนลตอนปี 1898 ที่เป็นบริษัททางด้านธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ของไทยที่คิดจะทำแบบนี้ และก็ได้มีการพัฒนาต่อยอด จนกลายเป็นบริษัทชั้นนำของทวีปเลยทีเดียวค่ะ
ประมาณปี 2018 ได้มีนิตยสารชื่อดังอย่าง ฟอร์บส์ ได้เคยลงคอนเทนต์เกี่ยวกับคุณวิชัย ว่าเป็นมหาเศรษฐีที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย คือตอนนั้นเขาเป็นผู้มีมูลค่าทางทรัพย์สินคือ 1.62 แสนล้านบาท
อดีตที่ฝังใจกับทีมดังอย่างเชลซี
ก่อนที่ทางกลุ่มทุนกลุ่มนี้จะหันมาสนใจอยากจะเป็น เจ้าของทีมสโมสรฟุตบอล ทั้งสองคนพ่อลูกก็มีความชอบเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้อยู่แล้ว และเมื่อประมาณปี 2005 เจ้าสัววิชัย ก็เคยพาทั้งครอบครัวไปเกาะขอบสนาม เชียร์ทีมเชลซีที่สนามแสตมฟอร์ด บิริดจ์ และตอนนั้นพวกเขาได้เข้าไปชม และเชียร์ในฐานะที่เป็นลูกค้าซื้อบ๊อกซ์วีไอพี ของสโมสรอีกด้วยค่ะ
แต่บังเอิญดันเกิดปัญหาเล็กน้อย ที่เจ้าหน้าที่สนามอาจจะเสียมารยาทไปบ้าง ทำให้กลายเป็นความฝังใจของท่านเจ้าสัว กลับมีความคิดแปลกและหันมากระซิบลูกชายของเขาว่าคอยดูนะ สักวันหนึ่งจะหาทางซื้อทีมฟุตบอลสักทีม แล้วจะเอามาทำการต่อสู้กับทีมเชลซีให้ได้ทีเดียว
วันแห่งความใฝ่ฝันก็มาถึง เมื่อมีโอกาสได้เทคโอเวอร์ เลสเตอร์ ซิตี้ ล่าสุด
ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มทุ่นที่อยู่ภายใต้การนำของทางเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา ตั้งใจและได้พยายามซื้อทีมสโมสร เรดดิ้งมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ดันไม่เป็นผล ทำให้ตอนปี 2010 ซีมเลสเตอร์ ซิตี้ ก็มีการติดต่อเข้ามากว่าต้องการอยากจะได้บริษัทคิงพาวเวอร์ช่วยมาเป็นสปอนเซอร์ผ้าคาดหน้าอก
และเมื่อได้มีการพูดคุยและติดต่อกันกับทางเจ้าของทีมตอนนั้นคือ มิลาน มันดิริช ทำให้กลุ่มทุนของทางคิงพาวเวอร์ ไม่ใช่แค่ผู้สนับสนุนและเป็นแค่สปอนเซอร์ที่คาดหน้าอกเท่านั้น แต่กลับได้มีการตัดสินใจดีลงาน เพื่อซื้อทั้งทีมนี้มาเลย ซึ่งตอนนั้นจบกันไปที่ 40 ล้านปอนด์
ก้าวสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของ เลสเตอร์ ซิตี้ไม่ได้ต่างจาก เจ้าของสโมสรแมนซิตี้
และเมื่อได้เข้ามาอยู่ในฐานะของผู้บริหารสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ล่าสุด แห่งนี้จนได้ สิ่งแรกที่พวกเขาได้ทำก็คือ การขยายสนาม และทำการเปลี่ยนชื่อสนามเป็น “ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม” และก็ใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้นก็สามารถกอบกู้และพาทีม เลสเตอร์ซิตี้ ผู้เล่น เข้าไปอยู่ในลีกสูงที่สุดแห่งอังกฤษได้สำเร็จ คือในช่วงฤดูกาลที่ 2013-2014 นั่นเองค่ะ
ต่อจากนั้นในฤดูกาลต่อมาก็สามารถประจักษ์แก่สายตาทุกคนได้ว่า นักเตะเลสเตอร์ ชุดแชมป์ เกิดสร้างเทพนิยายสุนัขจิ้งจอก ที่ได้มีการกล่าวขานกันไปอีกยาวนาน คือปรากฏการณ์หักปากกาเซียนจากทุกสำนัก และเริ่มเข้าไปสู่ความเป็นแชมป์ไปได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว เรียกได้ว่าตอนนั้นทำให้ชาว เลสเตอร์และคนไทยภาคภูมิใจอย่างมากค่ะ
จากรุ่นพ่อถ่ายทอดมาถึงรุ่นลูก ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ล่าสุด
น่าเสียดายที่ต่อมา เจ้าของเลสเตอร์ เสียชีวิต คือท่านเจ้าสัววิชัยถึงแก่กรรม ทำให้การจากไปอย่างกะทันหันนี้ งานด้านการบริหารเกี่ยวกับทีมสโมสรฟุตบอลก็เลยต้องตกไปอยู่ในความดูแลของลูกชายอย่างคุณ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ คนใหม่แบบเต็มตัว งานนี้คุณต็อบ ก็สามารถรับงานและสานต่อเจตนารมณ์ของคุณพ่อได้เป็นอย่างดี
และเมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นาน ทีม เลสเตอร์ ซิตี้ก็กลายมาเป็นทีมที่อยู่อันดับต้นๆ ของตารางพรีเมียร์ลีก ที่มีความพร้อมจะสู้ศึกพวกทีมบิ๊กๆ ได้อย่างสบายมาก แถมเขายังได้พาทีมไปตะลุยฟุตบอลยุโรปได้อีกหลายครั้งด้วย และที่สำคัญก็คือ คุณต็อบได้ทำความฝันของพ่อเขาที่เคยพูดไว้ได้สำเร็จอีกด้วย คือการนำเอาทีม เลสเตอร์ ผู้เล่น ไล่ถลุงเชลซีจนในที่สุดก็ชนะไป 1-0 ในศึกเอฟเอ คัพตอนปี 2021 ทำให้จิ้งจอกสยามในตอนนั้น ได้รับประสบการณ์ของชัยชนะ และคว้าถ้วยใบนี้ได้เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ของสโมสรนี้ค่ะ
สรุปแล้ว เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ที่อยู่ภายใต้กลุ่มทุนใหม่
ได้ประสบความสำเร็จตลอดมาทั้ง 14 ปีที่อยู่ภายใต้การดูแลของ เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ของกลุ่มทุนใหม่มีอะไรหลายอย่างมากที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็น นักเตะเลสเตอร์ ปัจจุบัน หรือในอดีตเพราะว่าพวกเขาได้ทำให้ฝันที่ไม่กล้าจะฝันของ แฟนบอล เลสเตอร์ กลับกลายเป็นความจริงได้ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบรรดา แฟนบอล เลสเตอร์ ชาวไทย ถึงได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก แฟนบอล เลสเตอร์ จากทั่วโลกค่ะ