ใครกันแน่คือ เจ้าของสโมสรสเปอร์ส

สำหรับ เจ้าของสโมสรสเปอร์ส ที่หลายคนติดใจสงสัยว่าใครกันแน่ คือเจ้าของตัวจริงของทีมดังอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เจ้าของตัวจริงก็คือกลุ่มทุน English National Investment Company ที่อยู่ภายใต้การนำอย่าง โจ ลูอิส ที่เขาก็คือนักธุรกิจชาวอังกฤษ อันโด่งดังไม่ได้แพ้ เจ้าของสโมสรเชลซี และ ตํานานลิเวอร์พูล fifa 4

กลุ่มทุนของ ENIC ได้เข้ามาซื้อหุ้นของทางสโมสรนี้ถึง 29 % ตั้งแต่ปี 1991 จากเจ้าของเดิมคือ เซอร์ อลัน ซูการ์ ซึ่งตอนนั้นซื้อมาในราคา 22 ล้านปอนด์ แต่ต่อมาภายหลังก็ยังซื้ออีกถึง 12 % จากเจ้าของเดิมคือ ซูกาตร์ ที่เหลืออยู่ในเวลานั้น ในปี 2007 ซึ่งก็ซื้อในราคาเดียวกันกับครั้งแรกคือ 22 ล้านปอนด์ด้วยเช่นกัน

ที่สุด เจ้าของสโมสรสเปอร์ส ก็เข้าถือหุ้นถึง 85 เปอร์เซนต์

สุดท้ายแล้วพอถึงปี 2021 ทางกลุ่มทุน ENIC ก็สามารถเข้าถือหุ้นได้มากถึง 85 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนที่เหลือก็จะเป็นของนักลงทุนรายย่อย มีหลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้ว ดานียล เลวีล่ะ เขาไม่ใช่เจ้าของท็อตแนม ฮ็อตสเปร์หรือ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตัวของเลวีเขาได้รับการเสนอชื่อ หรือถูกรับเลือกให้เป็นประธาน สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ ตอนปี 1991 และต่อจากนั้นเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีส่วนในการขับเคลื่อน และทำให้ทีม สเปอร์ สามารถเดินหน้ามาถึงวันนี้

ซึ่งคุณเลวีก็มีส่วนในหุ้นของกลุ่มทุน ENIC ที่มีอยู่ถึง 29.04 % ในขณะที่ทางโจ ลูอิสเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็คือ 70.6 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั่นเองค่ะ หลายคนนำสถิตินี้ไปเทียบกับ ผังเลขเด็ด ด้วยนะ

ท็อตแนม ฮ็อต สเปอร์ ทีมที่สร้างตำนานมาแล้วอย่างมากมาย

ความจริงแล้วทีมสโมสร สเปอร์ ที่ถือว่ามีความสำเร็จมาแล้วอย่างยาวนาน แถมยังเป็นแหล่งผลิตนักเตะ ที่ได้คุณภาพอย่างมาก สโมสรสเปอร์ แห่งนี้เขาตั้งอยู่ที่ย่านท็อตแนมในกรุงลอนดอน ซึ่งได้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1882 แล้ว เป็นทีมที่เกิดมาจากนักเรียนมัธยมแค่ 11 คนเท่านั้น แต่อยู่ภายใต้การนำของ บ็อบบี บัคเคิล และตอนแรกก็ใช้ชื่อ ฮอตสเปอร์ เอฟซี

จุดประสงค์ที่ก่อตั้ง ทีมสเปอร์ส นี้ ก็เพื่อให้นักเรียนได้ออกกำลังกายร่วมกัน ในช่วงปิดภาคเรียน และเมื่อเล่นกันมาได้ประมาณ 1 ปี พวกเขาก็เข้าไปขอร้องให้ จอห์น ริพเชอร์ ที่ตอนนั้นเป็นหมอสอนศาสนาในโบสถ์ของโรงเรียน ซึ่งต่อมาเขาก็คือประธาน สโมสรสเปอร์ คนแรก ที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ตเรื่องค่าใช้จ่ายของ สเปอร์ส ผู้เล่น รวมถึง นักเตะสเปอร์ส และการฝึกซ้อมให้

ต่อมาปี 1884 ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เอฟซี เพราะว่าไม่อยากจะให้เกิดการสับสนกับทีมอื่น ในกรุงลอนดอนที่ใช้คำว่าฮอตสเปอร์ แถมด้วยการตั้งชื่อเล่นให้กับสโมสรด้วยว่า ดอกลิลลี่สีขาว The Lily Whites

ในช่วงแรกตอนที่ ทีมสเปอร์ส ยังไม่ได้มีการลงแข่งอย่างเป็นทางการโดยมีเพียงแค่ได้ไปเตะแบบอุ่นเครื่อง กับพวกสโมสรท้องถิ่นเท่านั้น และการแข่งขันอาชีพในนัดแรกนั้น ก็คือการที่ทีมได้เจอกันกับทีมท้องถิ่นที่ชื่อว่า Radicals

ซึ่งตอนนั้นทีมของสเปอร์ก็แพ้ 0-2 จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถคว้าถ้วยการกุศลของกรุงลอนดอนได้สำเร็จตอนปี 1885 ด้วยการเอาชนะ ทีมเซนต์ อัลบาน 5-2 ทำให้ ทีมสเปอร์ส ก็เลยได้จดทะเบียนเป็นสโมสรอาชีพตอนปี 1895 นั่นเองและทำให้ทีมได้มีโอกาส ได้เข้าร่วมการแข่งขันในลีกเป็นครั้งที่เซาเทิร์นฟุตบอลลีกค่ะ

ประมาณปลายปีที่แล้วมีข่าวว่า ซีก ยาสซิม อยาจะเข้าเทคโอเวอร์ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เป็นช่วงหลังจากที่พวกเขาล้มเลิกแผนการเทคโอเวอร์จากทีมปีศาจแดง จากครอบครัวเกลเซอร์ หลังจากที่ข้อเสนอไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งสื่อดังอย่าง เดอะ มิเรอร์ มีการระบุบว่า ซีก ยาสซิม เขาได้ยุติแผนการทาบทาม จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งน่าจะมาจากความเบื่อที่ต้องรอเป็นเวลานานเกินไปในการเจรจาของตระกูลดังอย่าง เกลเซอร์ เพราะว่ามันเนิ่นนานมาหลายเดือน

ตามรายงานยังได้มีการระบุด้วยว่า พวกเขาน่าจะพุ่งเป้ามาที่ ทีมสเปอร์ซะมากว่า ด้วยเพราะว่าเคยได้ยินว่าทางกลุ่มทุนอยากจะขายอยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดก็ไม่มีการดีลกันอย่างที่เป็นข่าวไปแล้วค่ะ มีข้อสังเกตว่า จริงหรือที่ทางเจ้าของสเปอร์อยากจะขาย ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง มหาเศรษฐี โจ ลูอิส เจ้าของ สเปอร์ส ล่าสุด กลับมีการถูกตั้งข้อหาในเรื่องการซื้อ-ขายที่ได้มานั้นมาจากข้อมูลภายใน

สรุปแล้ว เจ้าของสโมสรสเปอร์ส ทำตามข้อกล่าวหาหรือไม่

นายเดเมียน วิลเลียมส์ คืออัยการของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เป็นประธานในการควบคุมกฎรัฐบัญญัติสหรัฐฯ ของเขตตอนใต้ของนิวยอร์ก ที่งานนี้ทางวิลเลี่ยมได้มีการเผยแพร่วิดีโอของข้อหาดังกล่าว ซึ่งต่อมาทางมหาเศรษฐีชาวอังกฤษได้กล่าวไว้ว่า ทางคณะกรรมการได้ตั้งข้อกล่าวหา โจ ลูอิสมานานแล้ว

และเห็นได้ชัดว่าเขามักจะใช้ผลประโยชน์ในการข้าถึงห้องของคณะกรรมการบริหารในทางที่ผิด ซึ่งเขานั้นได้ให้ข้อมูลภายในหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นคนรัก ผู้ช่วยส่วนตัว นักบินส่วนตัวและเพื่อนๆ ของเขาอีกด้วย

และนอกจากนี้ทางด้านนายวิลเลี่ยม ก็ยังบอกต่อไปอีกว่า เมื่อบุคคลใกล้ชิดที่ได้อ้างถึงนี้มีการใช้ข้อมูลภายใน เพื่อจะสร้างเงินได้หลายๆ ล้านดอลล่าร์ที่อยู่ในตลาดหุ้นอีกด้วยค่ะ

ส่วนของนาย โจ ลูอิส เจ้าของสโมสรสเปอร์ส ที่ถือว่าเขามีมหาเศรษฐีที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินหลายร้อยรายการ และก็ยังรวมถึง สโมสรสเปอร์ ที่เป็นทีมชั้นนำของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งทางนิตยสารอย่าง Forbes ได้ทำการประเมินทรัพย์สินไว้ก็คือ ประมาณ 4.7 ล้านปอนด์เลยทีเดียวค่ะ