มาดามแป้ง นางฟ้าท่าเรือ สู่ผู้จัดการ ทีมชาติไทย
มาดามแป้ง หรือ นวลพรรณ ล่ำซำ ในวัย 43 ปี ผู้คลุกคลีอยู่กับ วงการฟุตบอล ไทยมายาวนาน เริ่มต้นเส้นทาง จากการขึ้นเป็น ผู้จัดการทีม กีฬาคนพิการ ตั้งแต่ปี 2549 และในปัจจุบัน มาดามแป้งก็ยัง ทำงานตรงนี้อยู่ ด้วยโครงการส่งเสริม อาชีพผู้พิการ ช่วยผลักดันให้ ผู้พิการมีอาชีพ และมีรายได้ และยังช่วยสนับสนุน ให้มีผู้คน เข้ามามีส่วน ช่วยเหลือผู้พิการ มากขึ้นอีกด้วย
ถัดมาในปี 2551 เธอได้รับโอกาส ในการเข้ามา เป็นผู้จัดการทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย จากคนที่เล่น ฟุตบอลไม่เป็น ใช้เวลาเรียนรู้ และศึกษาเรื่อง เกี่ยวกับฟุตบอล และได้ทำการ ปลุกปั้นทำทีม ฟุตบอลหญิงอยู่หลายปี จนสามารถนำ ทีมนางฟ้าแข้งทอง ของไทยไปเข้าร่วม แข่งขันฟุตบอลโลก และเข้าชิงถึง รอบสุดท้ายมาแล้ว ถึง 2 สมัยด้วยกัน เป็นประวัติศาสตร์ หน้าใหม่ของชาติไทย เลยก็ว่าได้
เป็นที่รู้กันว่า งานนี้ไม่ได้ ง่ายอย่างที่คิด เพราะการนำทีม ไปฟุตบอลโลก นั้นเต็มไปด้วย ความกดดันต่าง ๆ และความคาดหวัง แต่ผลงานครั้งนี้ ก็สามารถสร้าง ชื่อเสียงให้ประเทศ และทีมลูกหนัง สาวไทยได้ไม่น้อย
ได้รับโอกาส ร่วมงานการท่าเรือเอฟซี
ในช่วงปี 2558 มาดามแป้งเริ่มเข้ามา ทำสโมสรฟุตบอล “การท่าเรือ เอฟ.ซี.” ทีมสโมสร ระดับตำนาน ของไทยลีกที่ กับฉายาว่า “สิงห์เจ้าท่า” มหาอำนาจ ในวงการลูกหนัง มีชื่อเสียงทั้ง ผลงานในสนาม และแฟนบอลพร้อม ๆ กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าผู้หญิงมา ดูแลทีมอาจ จะไปไม่รอด
ในช่วงแรก ๆ ก็มีล้มลุกคลุกคลาน กันอยู่บ้างแต่ ในที่สุดเธอ ก็ได้พิสูจน์ ตัวเองด้วยผลงาน ความสำเร็จของ การท่าเรือเอฟซี ที่ผ่าน ๆ มาจนเธอได้ รับฉายาว่าเป็น นางฟ้าท่าเรือ
มาดามแป้ง ผู้หญิงต้นแบบแห่งปี
ตลอดเวลาที่ อยู่กับการท่าเรือ มาดามแป้งไม่ได้ มุ่งหวังแค่ชัยชนะ การแข่งขันใน สนามเท่านั้น แต่ประธานสโมสร คนนี้ต้องการ สร้างครอบครัวฟุตบอล เธอมองว่าถ้า คนในชุมชน มีชีวิตความ เป็นอยู่ที่ดีเด็ก ๆ ได้รับแรงบันดาลใจ จากนักฟุตบอล ที่เขาชื่นชอบ ใช้เวลาไปกับ เรื่องกีฬาและ ห่างไกลยาเสพติด
มาดามแป้งเชื่อว่า เมื่อเยาวชนมี กิจกรรมดี ๆ คนค้าขายใน ชุมชนมีรายได้ คุณภาพชีวิต พวกเขาดีขึ้น ทีมฟุตบอลก็จะ ได้รับแรงสนับสนุน กลับคืนมาเอง ทุกอย่างจะวน กลับมาเป็นวงกลม
ดังนั้นตลอด 7 ปีเธอจึงทำให้ ครอบครัวการท่าเรือ เป็นมากกว่าฟุตบอล แต่มุ่งเป้าหมาย สำคัญไปที่ เรื่องของความยั่งยืน ของสโมสรและชุมชน ช่วยพัฒนาชุมชน คลองเตยให้เป็น ชุมชนต้นแบบ ควบคู่ไปกับ การเล่นกีฬา
แม้ว่าฟุตบอล จะถูกมองว่า เป็นโลกของผู้ชาย แต่จากประสบการณ์ ในวงการกีฬา ที่ไม่น้อยกว่า 15 ปี จากคนที่ไม่รู้ แม้กระทั่งกติกา ฟุตบอลแต่ความ ที่เป็นคนใจสู้ กล้าได้กล้าเสีย และความทุ่มเท ของเธอเหล่านี้ ที่คอยผลักดัน ให้เธอก้าวข้าม ขีดจำกัดของ ความเป็นผู้หญิง ไปยังโลกอีกมิติ ที่แม้แต่เธอเอง ก็ไม่คาดคิด มาก่อนหน้านี้
คุมทีมชาติชุดใหญ่ ผู้จัดการทีมฟุตบอลไทย กู้วิกฤติศรัทธาวงการลูกหนัง
ในปี 2564 สมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศแต่งตั้ง “มาดามแป้ง” ให้เข้ารับตำแหน่ง เป็นผู้จัดการ ทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทยทั้ง ชุดใหญ่และรุ่น อายุไม่เกิน 23 ปี (U-23)
โดยมีภารกิจหลัก ๆ คือ การพาทีมเข้าร่วม การแข่งขันฟุตบอล รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ฟุตบอลชิงแชมป์ แห่งชาติอาเซียน 2021 หรือเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2021 และฟุตบอลเอเชียนคัพ ในปี 2023
วิกฤติจากการ การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัส ตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงฟุตบอลไทย ที่มีผลกระทบ อย่างหนักเช่นกัน อีกทั้งผลงานของ ฟุตบอลทีมชาติไทย ไม่ตรงตามเป้าหมาย ที่ได้วางไว้
ทางสมาคมฯ ได้เล็งเห็นว่า “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ได้คลุกคลี กับวงการฟุตบอล ไทยมายาวนาน มีทั้งความรู้ มีความสามารถ และประสบการณ์ และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือเธอมี หัวใจที่รัก ในฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็น ระดับสโมสร หรือระดับทีมชาติ
มาดามแป้งมี ทั้งความเหมาะสม และความพร้อมที่ จะเข้ามาช่วย กู้วิกฤติศรัทธา ช่วยพัฒนาวงการ ลูกหนังไทยให้ยิ่งใหญ่ และก้าวไปข้างหน้า เพื่อขึ้นเป็นทีม ชั้นนำของเอเชีย และเพื่อเพิ่มโอกาส ในการร่วมการแข่งขัน ในระดับโลกต่อไป
พาบอลไทย ไปสู่บอลโลก
จากผลงานในอดีต ที่เคยพาฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทยเข้าร่วม การแข่งขันฟุตบอลโลก มาก่อนหน้านี้ ของมาดามแป้ง ทำให้แฟนบอลชาวไทย แอบมีความหวังเล็ก ๆ ว่าจะมีโอกาส เห็นทีมชาติไทย ทีมฟุตบอลชาย ได้เข้าไปโลดแล่น ในสนามระดับโลก เพื่อสร้างชื่อเสียง ให้กับประเทศ และสร้างความสุข ให้กับแฟนบอล ชาวไทยอีกครั้ง
บทบาทในตำแหน่ง ผู้จัดการทีม ของเธอต่อจากนี้ จะดำเนินต่อไป ในรูปแบบไหน คงต้องรอชม การพัฒนาของทีม ลูกหนังชาติไทย ว่าจะสามารถ เรียกเสียงเชียร์จากแฟน ๆ ที่รอชื่นชม ผลงานในเวทีโลก ของทีมชาติไทย ได้อีกหรือไม่ มาลุ้นไปด้วยกัน !!